ดีลยืมตัวสุดปัง ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

บทความรวม ดีลยืมตัวสุดปัง มีแนวทางมาจากประเด็นที่ปฏิเสธได้ยากว่า วงการฟุตบอลทุกวันนี้ การจะพาสโมสรสักทีม ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ จำเป็นต้องทุ่มเม็ดเงินอย่างมหาศาล ซึ่งจากสาเหตุดังกล่าว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่าง ทีมใหญ่ ที่มีเงินสำรองในคลังสโมสร แบบพร้อมให้ทุบกระปุกตลอดเวลา ยกตัวอย่างจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เช่น เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือแม้แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นต้น

ตรงกันข้ามกับทีมระดับกลาง หรือเล็กลงมา ที่มีงบประมาณจำกัด จะจับจ่ายใช้สอยแต่ละที ต้องคิดแล้วคิดอีก โดยอีกหนึ่งทางออก ที่สามารถแบ่งเบารายจ่ายส่วนนี้ได้ คือ “การยืมตัว” นั่นเอง ทางเลือกนี้ เป็นผลดีกับทั้งตัวนักเตะเอง, ทีมต้นสังกัด และ สโมสรที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา ที่ต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

สำหรับนักเตะ ก็ได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง หากโชว์ฟอร์มได้ดี ก็มีลุ้นเป็นตัวจริงในอนาคตอันใกล้ แถมยังได้ลุ้นเรื่องการซื้อตัวมาร่วมทีม ย้ายสังกัดมาอยู่ทีมใหม่แบบถาวร ส่วนฝั่งสโมสรผู้ยืมมา ก็ได้ลดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจ่ายค่าตัว แค่ดูแลรับภาระแค่ค่าจ้างเท่านั้น ฝ่ายสุดท้าย คือ สโมสรเจ้าของทรัพย์สิน ที่ลดภาระค่าเหนื่อยลงไปชั่วคราว แล้วมีสิทธิ์ที่จะทำเงินจากนักเตะส่วนเกินในทีม ได้ในอนาคตอันใกล้ เรียกว่า วิน-วิน กันทุกฝ่าย

บทความนี้ ออฟพิชท์ ได้มัดรวมเอาดีลการยืมตัวระยะสั้น ที่เป็นปรากฏการณ์ในลีกสูงสุดแดนผู้ดีไว้แบบครอบคลุม สโมสรทุกระดับชั้น ซึ่งคัดมาแต่ดีลที่ประสบความสำเร็จล้วนๆ

ดีลยืมตัวสุดปัง ทีมท้ายตาราง

เริ่มต้นกันที่ คริสตอฟ ดูการ์รี่ ดาวยิงดีกรี ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลกปี 1998 ที่ตัดสินใจย้ายจาก บอร์กโดซ์ มาร่วมทัพ “ตราลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในเดือนมกราคมปี 2003

ซึ่ง ณ เวลานั้น เป็นทีมที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น สถานการณ์ค่อนข้างแย่ สตีฟ บรูซ นายใหญ่ของทีม จึงพยายามมองหาทางเลือก ที่เข้ามาเติมคมแนวรุก ให้มีความจัดจ้านมากขึ้น

โดย ดูการ์รี่ ในวัย 31 ปี เป็นกองหน้าที่มีการเล่นที่หลากหลาย ครองบอล เก็บบอลในแนวรุกได้ดี แถมมีจังหวะยิงประตูที่ไว้ใจได้ ตรงสเปคตามที่มองหาทุกประการ

สุดท้ายการเสี่ยงของ บรูซ ในครั้งนั้น ก็เป็นผลบวก เพราะดาวยิงรายนี้ ใช้ประสบการณ์ที่ค้าแข้งมาอย่างโชกโชน ประคองให้ เบอร์มิงแฮม อยู่รอดในลีกสูงสุดได้สำเร็จ ด้วยการคว้าชัยชนะ 5 จาก 8 เกมสุดท้าย แถมยิงไป 5 ประตูเลยทีเดียว นับว่าช่วยเซฟเงินให้กับสโมสร ทั้งเรื่องค่าตัว และ อนาคตที่จะสูญเสียรายได้ จากการตกชั้น แบบนับไม่ถ้วน

มาต่อกันที่ดาวยิงค่าตัวแพงของ เชลซี ปัจจุบันมูลค่าหากย้ายออกครั้งหน้า โรเมลู ลูกากู ต้องมีค่าตัวเกือบแตะหลักร้อยล้านยูโร แต่กลายเป็นว่าทุกวันนี้ กลับต้องมานั่งสำรอง รอโอกาสที่ข้างสนามแบบไร้ความหวัง เหมือนว่าจะแอบมีปัญหาส่วนตัวกับผู้จัดการทีมอยู่ด้วยลึกๆ

ย้อนไปในช่วงเวลาที่ ศูนย์หน้ารายนี้ ยังเป็นนักเตะดาวรุ่ง แม้ว่าดดีกรีก่อนย้ายมายังกรุงลอนดอน เขาจะถูกวางไว้เป็นตัวแทนของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เพราะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม น่าจับตามองระดับ วันเดอร์ คิดส์

ด้วยการยิงประตูแบบระเบิดเถิดเทิงให้กับ อันเดอร์เลชท์ ทีมที่เขาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว แต่กลายเป็นว่า อนาคตในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ ลูกากู ไม่ได้สดใสดังคาด กลายเป็นตัวสำรองที่ถูกลืม มีโอกาสลงสนามไปแค่ 8 เกมเท่านั้น ยิงให้กับชุดใหญ่ไม่ได้เลย ขลุกอยู่กับการลงเล่นให้กับทีมเยาวชนมากกว่า

โดยในฤดูกาล 2012/13 เป็นทาง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่มี สตีฟ คล้าร์ก คุมทีมอยู่ในตอนนั้น ยื่นข้อเสนอขอยืมตัว ลูกากู ไปร่วมทีมตั้งแต่ต้นซีซั่น

แล้วความเชื่อมั่นของ คล้าร์ก ก็ไม่ผิดหวัง หลังดาวยิงชาวเบลเยี่ยม ตอบแทนเขาด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ด้วยการลงเล่นในเกมลีกไปถึง 35 นัด ถล่มไปทั้งสิ้น 17 ประตู ช่วยให้ทีมจบในอันดับที่ 8 ในซีซั่นดังกล่าว แบบเหนือความคาดหมาย ด้วยการมีการเล่นที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ดุดัน รวดเร็ว และ เฉียบคม บวกกับความห้าวเป้งเป็นจุดขาย

ปิดท้ายกันที่ดีลอันเหนือความคาดหมาย และแทบไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้อย่าง อีบัน คัมโป้ กองหลังหัวฟูของ เรอัล มาดริด ที่ย้ายมาเล่นให้กับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ในปี 2002

หลังกลายเป็นส่วนเกินของ ราชันชุดขาว ไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นมากนัก โดยในเวลานั้น “เดอะ ทร็อตเตอร์” ของ แซม อัลลาไดซ์ ถูกสื่อบูลลี่ว่า ไม่ต่างกับทีมบ้านพักคนชรา เพราะเต็มไปด้วยนักเตะในวัยใกล้ปลดระวาง อาทิ ยูริ จอร์เกฟฟ์ และ เจย์เจย์ โอโคชา

แต่กลายเป็นว่า การประสานงานของสตาร์ตัวเก๋า กลับเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ที่ทำให้ โบลตัน มีการเล่นที่ตื่นตาตื่นใจ ไม่สามารถประมาทได้เลย โดยทาง คัมโป้ เป็นหัวใจทั้งในแนวรับ และ แดนกลาง แตกต่างกันไปตามหน้าที่ อันได้รับการมอบหมายจากโค้ช

จากผลงานอันยอดเยี่ยมของเขา ส่งผลให้ในปีถัดมา โบลตัน ตัดสินใจมอบสัญญาแบบถาวร ให้เขาอยู่ประคองทีมไปอีก 1 ปี แล้วภาพการเล่นในยุคนั้น ก็ยังคงติดตาติดใจแฟนบอลยุค 2000 มาจนถึงปัจจุบัน

ดีลยืมตัวสุดปัง ทีมหัวตาราง

ดีลสุดปังที่คัดมาของทีมระดับลุ้นแชมป์ เป็นอดีตนักเตะระดับตำนานของสโมสร เอซี มิลาน อย่าง จอร์จ เวอาห์ ที่เคยมาผจญภัยในลีกอังกฤษ เป็นระยะเวลาสั้นๆ กับ เชลซี

เรื่องคุณภาพฝีเท้าของ ดาวยิงทีมชาติไลบีเรีย นั้นไม่เป็นข้อกังขาใดๆ ในช่วงพีคนั้น เวอาห์ เป็นหนึ่งในศูนย์หน้า ที่อันตรายที่สุดในโลก มีทั้งความเร็ว ความเฉียบคม และ ร่างกายที่แข็งแกร่ง

แต่พอย่างเข้าสู่วัย 33 ปี บทบาทของเขากับ ปีศาจแเดงดำ เปลี่ยนไปเป็นตัวสำรองบ่อยขึ้น แล้วก็เป็นทาง สิงโตน้ำเงินคราม ที่พร้อมเสี่ยงลองยืมตัว เวอาห์ มาใช้งานในตลาดรอบสองฤดูกาล 1999/2000

โดยทาง เวอาห์ ก็ยังคงไว้ลายยอดดาวยิง ตั้งแต่เกมเปิดตัว ด้วยการเป็นฮีโร่ ยิงประตูชัยในศึก ลอนดอน ดาร์บี้ แมตซ์ ที่เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ไปได้แบบเฉียดฉิว 1-0 นอกจากนั้นยังเป็นกำลังสำคัญ ในการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้อีกด้วย

สิริรวมแล้วดาวยิงผิวสีที่แก่แต่เก๋า ทำประตูให้กับต้นสังกัดชั่วคราว ไปทั้งสิ้น 5 ประตู จากการลงเล่นรวมทั้งหมด 15 นัด

สโมสรระดับกลางยืมตัวเสริมแกร่ง

ปิดท้ายกันที่ยอดศูนย์หน้า ดีกรีทีมชาติเยอรมันในยุค 90 อย่าง “ฉลามขาว” เจอร์เก้น คลิ้นส์มัน ที่เคยค้าแข้งให้กับ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ในรอบแรกในซีซั่น 1994/95 แล้วกลายเป็นขวัญใจชาว ยิด อาร์มี่ อย่างรวดเร็ว จนถูกยกย่องให้เป็นตำนานบทหนึ่งของสโมสรเลยทีเดียว หลังจากโชว์ฟอร์มสุดยอด ด้วยการกดไป 30 ประตูรวมทุกรายการ

แต่แล้วฟอร์มอันยอดเยี่ยมดังกล่าว ดันไปเตะตา บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ที่ตัดสินใจดึงตัว ฉลามขาว กลับไปล่าตาข่ายในประเทศบ้านเกิดแบบทันทีทันควัน

แต่ท้ายที่สุดแล้ว คลิ้นส์มัน ก็ได้กลับมาเล่นในถิ่น ไวท์ ฮาร์ทเลน อีกหนึ่งครั้ง ในช่วงครึ่งซีซั่นของปี 1997/98 โดยการคัมแบ็ครอบดังกล่าว ฉลามขาว ยังคงทำผลงานได้ ตราตรึงใจ แฟนบอลไก่เดือยทองเช่นเคย ด้วยการทำไป 9 ประตู จากการลงเล่นเกมลีก 15 นัด ซึ่งผลงานดังกล่าว ช่วยให้ทีมรอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จ

แน่นอนว่า การกดคนเดียวไป 4 ประตู ในเกมที่บุกไปถล่ม วิมเบิลดัน ถึงสนาม เซลเฮิร์สท ปาร์ค 6-2 คงเป็นฟอร์มชั้นมาสเตอร์พีซ ที่ยากจะหาใครเทียบได้

เว็บไซต์ ออฟพิชท์ มุ่งเน้นการนำเสนอ ข่าวสารที่น่าสนใจ จากวงการฟุตบอลทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือ นอกประเทศ ประเด็นไหนที่กำลังร้อนตามกระแส ไม่มีทางปล่อยผ่านให้หลุดมือ พร้อมตีแผ่ให้ลึกแบบถึงกึ๋น ติดตามพวกเราไว้ รับรองได้ว่า ไม่มีตกเทรนด์แน่นอน